แฟ้มข่าว: ไก่อูนั่งอธิบดีกปส.เต็มตัว คสช.ไม่ยอมปลดล็อกสื่อ

รายงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของ 10 ข่าวเด่นวงการทีวี ปี 2561 อันดับที่ 10 จัดอันดับโดยทีมงาน ‘ยามเฝ้าจอ’

ไก่อูนั่งอธิบดี กปส. เต็มตัว

นอกจากนี้ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด ที่ได้นั่งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2558 ก็ได้มานั่งรักษาการในตำแหน่ง “อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์” (กปส.) ควบตามคำสั่ง คสช. 59/2559 โดยในคำสั่งดังกล่าวให้เหตุผลว่าเพื่อประโยชน์ในการขับเคลื่อนงานประชาสัมพันธ์ของรัฐ ให้มีความสอดคล้องกับการประชาสัมพันธ์ของทางราชการ คสช. และรัฐบาล

ในระหว่างนี้ก็มีการผลักดันให้สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT สามารถหารายได้จากโฆษณาได้หลายรูปแบบ เช่น โฆษณาบริการทางธุรกิจได้ไม่เกิน 8 นาที/ชั่วโมง (ถ้ารวมทั้งวันแล้วเฉลี่ยออกมาต้องไม่เกิน 6 นาที/ชั่วโมง), แบ่งเวลาให้บุคคลอื่นดำเนินการ และขอรับบริจาคได้อีกด้วย

จนออกเป็นประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 ได้สำเร็จ

หลังจากนั้น 11 ก.ย. 61 บี-พุทธิพงษ์ ประเดิมจากรับหน้าที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และในวันที่ 24 ต.ค. 61 ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ควบอีกตำแหน่ง แทนที่ตำแหน่ง พลโท สรรเสริญ ซึ่งรักษาการเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

ต่อมาในวันที่ 18 ธ.ค. 61 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอรับโอน พลโท สรรเสริญ ข้าราชการทหาร ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก กระทรวงกลาโหม มาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ (นักบริหารระดับสูง) กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

คสช.ไม่ยอมปลดล็อกสื่อ

จนบัดนี้ รัฐบาล และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ครอบอำนาจมากกว่า 4 ปี ก็ยังไม่ปลดล็อกคำสั่งที่กำจัดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ได้แก่ ประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557, ประกาศ คสช.ที่ 103/2557, คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ข้อ 5 และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 41/2559 แต่ถึงอย่างไรอีกหลายคำสั่งและประกาศ คสช. ก็ยังริดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ทั้งที่เป็นช่วงเข้าใกล้การเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 61 ก็ตาม

โดยเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 61 โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์เชิญชวนประชาชน โดยระบุว่า “เบื่อรายการคืนวันศุกร์ ที่ฉายทุกช่องมานานกว่าสี่ปีหรือยัง? ช่วยกันเข้าชื่อเพื่อยกเลิกประกาศ คสช. ที่บังคับสื่อทุกช่องต้องออกอากาศเนื้อหาตามที่ คสช. ต้องการ” ได้ที่ https://ilaw.or.th/10000sign (ซึ่งรณรงค์มาตั้งแต่ 15 ธ.ค. 60 แล้ว)

ต่อมาวันที่ 23 ธ.ค. 61 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ก็ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อให้แต่ละพรรคแสดงเจตนารมณ์ในการเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. ทั้งหมด เพื่อให้สังคมไทยได้ก้าวไปสู่บรรยากาศของความเป็นประชาธิปไตยอีกด้วย

Just ordinary guy who interested about current affairs, new media and technology. Now I'm Creative Content Creator and Co-founder of 'Yarmfaojor' (ยามเฝ้าจอ), Thailand TV Monitor by new generation.